เจอแล้ว “ข้างหลังภาพ” ฟิล์มเนกาทีฟที่หายสาบสูญไปกว่า 20 ปี  ไฟว์สตาร์ฯ นำกลับมารีมาสเตอร์เป็น 4K  คุณภาพเยี่ยมทั้งภาพและเสียง พร้อมให้ทุกคนได้ชมเร็วๆนี้!!

เจอแล้ว “ข้างหลังภาพ” ฟิล์มเนกาทีฟที่หายสาบสูญไปกว่า 20 ปี ไฟว์สตาร์ฯ นำกลับมารีมาสเตอร์เป็น 4K คุณภาพเยี่ยมทั้งภาพและเสียง พร้อมให้ทุกคนได้ชมเร็วๆนี้!!

  “ข้างหลังภาพ” นับเป็นภาพยนตร์สุดคลาสสิคอีกเรื่องที่โลกภาพยนตร์ต้องจารึกไว้ในยุครุ่งเรืองของฟิล์ม 35มม. บันทึกเสียงจริงด้วยระบบซาวด์ออนฟิล์ม  กำกับโดย เปี๊ยก โปสเตอร์ และนำแสดงโดยสองพระนางที่โด่งดังที่สุดในยุคนั้น  นาถยา แดงบุหงา, อำพล ลำพูน  เข้าฉายเมื่อปี 2527   นับเป็นเวอร์ชั่นที่ถูกพูดถึงมากที่สุดและยังกวาดรายได้ถล่มถลายในยุคนั้น  ซึ่งต่อมาฟิล์มเนกาทีฟได้หายสาบสูญไปกว่า 20ปี  จึงไม่ได้มีการฉายที่ช่องทางใดๆในช่วงที่ผ่านมา ทาง บริษัท ไฟว์สตาร์ โปรดักชั่น จำกัด เจ้าของลิขสิทธิ์มีเพียงมาสเตอร์ในเทปยูเมติคซึ่งเป็นคุณภาพค่อนข้างเสื่อมสภาพ  ทางบริษัทฯ จึงออกตามหาทั้งในประเทศและประเทศญี่ปุ่นมาเกือบ 20ปี   ในที่สุดก็เจอโดยบังเอิญที่หอภาพยนตร์ จึงรีบนำกลับมารีมาสเตอร์ให้อยู่ในคุณภาพ 4K ซึ่งจะเป็นครั้งแรกในรอบ 20ปี ที่แฟนคอหนังไทยจะได้ชม “ข้างหลังภาพ” ที่ นาถยา แดงบุหงาอำพล ลำพูน นำแสดง   โดยจะนำกลับมาให้ทุกคนได้ชื่นชมกันอีกครั้งอย่างเต็มรูปแบบ  และ“ข้างหลังภาพ” ยังเป็นภาพยนตร์ที่ถูกคัดเลือกให้เป็น 1 ใน 70 สุดยอดภาพยนตร์ไทยในสมัยรัชกาลที่ 9 อีกด้วย

“ข้างหลังภาพ” จากบทประพันธ์โดย ศรีบูรพา  เรื่องราวได้เล่าถึง…นพพร หนุ่มนักเรียนนอกอนาคตไกล ที่ได้ระลึกถึงเรื่องราวในอดีตเมื่อครั้งที่เขาศึกษาอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น เขาได้มีโอกาสต้อนรับท่านเจ้าคุณอธิการพร้อมทั้งภรรยาสาวสวย คือ คุณหญิงกีรติหรือหม่อมราชวงศ์กีรติ  มิตรรักซึ่งเขาไม่มีวันลืมเลือนได้เลย และทุกครั้งที่ท่านเจ้าคุณไม่ว่างก็จะให้นพพรได้ทำหน้าที่ดูแลและพาคุณหญิงกีรติไปเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ จนทั้งสองได้แลกเปลี่ยนความรู้สึกและความคิดต่างๆ  ด้วยความอ่อนโยนและดูห่วงใยนพพรมากจนทำให้นพพรหลงรักคุณหญิงกีรติจนหมดหัวใจ แต่ก็ไม่อาจหาญกล้าทำลายความเคารพรักของคุณหญิงที่มีต่อท่านเจ้าคุณได้จนเมื่อทั้งสองเดินทางกลับประเทศไทย นพพรก็ได้เฝ้าแต่คิดถึงคุณหญิงกีรติ จนกระทั่งทราบข่าวการจากไปของท่านเจ้าคุณ ซึ่งไม่มีอะไรดีไปกว่ารีบตั้งใจเรียนให้จบโดยเร็ว ฟากคุณ หญิงเธอเองก็ยังคงเฝ้ารอคอยนพพรเสมอมา  แต่ก็ต้องผิดหวังเมื่อนพพรกลับมาแล้วต้องแต่งงานกับคู่หมั้นที่ครอบครัวเตรียมไว้ให้ นพพรไม่เคยรู้มาก่อนว่าคุณหญิงป่วยหนัก  จนวันสุดท้ายที่ทั้งสองได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง ก่อนที่คุณหญิงจะสิ้นลมเธอได้กล่าวคำร่ำลากับนพพรเป็นครั้งสุดท้ายว่า…ฉันตายโดยปราศจากคนที่รักฉัน แต่ฉันก็อิ่มใจว่าฉันมีคนที่ฉันรัก…       ลมหายใจได้สิ้นสุดลงคงเหลือเพียงภาพความหลังที่ทั้งสองได้วาดมันขึ้นมา

70 สุดยอดภาพยนตร์ไทยในสมัยรัชกาลที่ ๙

70 สุดยอดภาพยนตร์ไทยในสมัยรัชกาลที่ ๙

คุณเธียร พรวาณิชย์ ประธานกรรมการบริษัท และ คุณเกียรติคุณ เอี่ยมพึ่งพร กรรมการบริหาร  บริษัทไฟว์สตาร์ โปรดักชั่น จำกัด

ไปร่วมงาน 70 สุดยอดภาพยนตร์ในสมัยรัชกาลที่ ๙  และนักแสดงอีกมากมายมาร่วมงาน  ทางกระทรวงวัฒนธรรมได้จัดงาน” ๗o สุดยอดภาพยนตร์ไทยในสมัยรัชกาลที่  ๙” ขึ้นเพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร  ที่ทรงมีต่อวงการภาพยนตร์ไทย โดยคัดเลือกภาพยนตร์ไทย 70 เรื่อง จากจำนวน 4,500 เรื่อง โดยเกณฑ์การคัดเลือกสุดยอดภาพยนตร์ไทย เช่น เป็นภาพยนตร์ไทยเรื่องยาวที่จัดฉายและเผยแพร่ในโรงภาพยนตร์ในประเทศไทยสมัยรัชกาลที่ 9 ช่วงเวลาแห่งการทรงครองสิริราชสมบัติ วันที่ 9 มิถุนายน 2489 – 13 ตุลาคม 2559 รวม 70 ปี 127 วัน เป็นภาพยนตร์ไทยที่ได้รับรางวัในงานประกวดระดับประเทศ หรืองานประกาศรางวัลระดับนานาชาติ ที่ได้รับการยอมรับอย่างน้อย 1 รางวัล เป็นภาพยนตร์ที่ทำสถิติรายได้ขายบัตรชมภาพยนตร์ของปกติสูงสุด 5 อันดับแรกของแต่ละปี เป็นภาพยนตร์ที่สร้างแรงบันดาลใจและสะท้อนชีวิตคนไทยในสมัยรัชกาลที่ 9 และเป็นภาพยนตร์ที่ทรงคุณค่าทางศิลปะ  โดยมี พณฯ รองนายกรัฐมนตรี วิษณุ เครืองาม ให้เกียรติมาเป็นประธานในครั้งนี้

มีภาพยนตร์ของไฟว์สตาร์ทั้งหมด 14 เรื่อง ที่เป็นสุดยอดภาพยนตร์ในสมัยรัชกาลที่ ๙  ได้แก่

1. ทองพูนโคกโพ ราษฎรเต็มชั้น กำกับโดย หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล

2. คนภูเขา กำกับโดย วิจิตร คุณาวุฒิ

3. บ้านทรายทอง กำกับโดย ผู้กำกับ วิจิตร คุณาวุฒิ

4. หลวงตา กำกับโดย รุจน์ รณภพ

5. ลูกอีสาน กำกับโดย เพิ่ มพล เชยอรุณ

6. น้ำพุ กำกับโดย ยุธนา มุกดาสนิท

7. ข้างหลังภาพ กำกับโดย เปี๊ยก โปสเตอร์

8. ผีเสื้อและดอกไม้ กำกับโดย ยุธนา มุกดาสนิท

9. ด้วยเกล้า กำกับโดย บัณฑิต ฤทธิ์ถกล

10. บุญชูผู้น่ารัก กำกับโดย บัณฑิต ฤทธิ์ถกล

11. คนทรงเจ้า กำกับโดย แจ๊สสยาม

12. กาลครั้งหนึ่งเมื่อเช้านี้ กำกับโดย บัณฑิต ฤทธิ์ถกล

13. ฟ้าทะลายโจร กำกับโดย วิศิษฏ์ ศาสนเที่ยง

14. มนต์รักทรานซิลเตอร์ กำกับโดย เป็นเอก รัตนเรือง

 

  •       
สองสาวเน็ตไอดอล “นิว-ปทิตา” ควงคู่ “ดรีม-ณัฐณิชา” ผันตัวเองมาเป็นวล๊อกเกอร์ชื่อดังหลอกขายออนไลน์ในตอน…แชต แชร์ ช็อก

สองสาวเน็ตไอดอล “นิว-ปทิตา” ควงคู่ “ดรีม-ณัฐณิชา” ผันตัวเองมาเป็นวล๊อกเกอร์ชื่อดังหลอกขายออนไลน์ในตอน…แชต แชร์ ช็อก

หลีกไม่พ้นกับยุคขายของออนไลน์ในปัจจุบัน ที่ต่างมีเน็ตไอดอลออกมารีวิวสินค้ากันอย่างโจ๋งครึ่มมีทั้งดีและไม่ดีปะปนกันไปซึ่งกลายเป็นเรื่องธรรมดาที่สาวๆ ทุกคนต่างออกมาโชว์เรือนร่างและหน้าตา ด้วยเหตุนี้เองทำให้ มรว. เฉลิมชาตรี ยุคล จึงอยากสะท้อนมุมมองด้านมืด อีกด้านผ่านผลงานการกำกับภาพยนตร์ซีรีส์อย่าง Bangkok Ghost Stories (แบงค็อก โกสต์ สตอรี่) ในตอน…แชต แชร์ ช็อก โดยเรื่องราวในตอนนี้บอกเล่าถึงสองสาวเน็ตไอดอลมาแรงอย่าง มิลค์ และ ลูกหมี ที่เธอทั้งคู่ผันตัวมาเป็นวล๊อกเกอร์สาวสวยที่โด่งดังจากการรีวิวเครื่องสำอางในอินเตอร์เน็ต จนมีแฟนคลับและยอดฟอลโลเวอร์ถล่มทลาย หนึ่งในนั้นคือ ทศ ชายหนุ่มแสนซื่อที่ถูกมิลค์หลอกให้รักทั้งๆ ที่ไม่เคยเจอตัวเป็นๆกันมาก่อน ทศยอมทุ่มเทเปย์ทุกอย่างจนเขาหมดเนื้อหมดตัว และลูกหมีก็คือตัวแปรสำคัญที่ทำให้เกิดเรื่องร้ายขึ้น เมื่อคืนหนึ่งลูกหมียุให้มิลค์คุยวิดีโอคอลกับทศ โดยไม่คาดคิดเลยว่าเขาจะไลฟ์ฆ่าตัวตายให้ดูสดๆแบบเรียลไทม์! กลายเป็นจุดเริ่มต้นของความหายนะทั้งหมด เมื่อคลิปวิดีโอโหดสยองนี้ถูกส่งต่อให้ใครอีกหลายคนดู ทศจึงกลับมาทวงสัญญาที่มิลค์เคยให้ไว้ก่อนเขาตาย!! สัญญาที่ว่านี้คืออะไร? ที่ทำให้ชีวิตของมิลค์และลูกหมีเปลี่ยนไปตลอดกาล ซึ่ง มรว. เฉลิมชาตรี ยุคล เล่าให้ฟังถึงไอเดียในการนำเสนอซีรีส์เรื่องนี้ว่า…
“…ในตอน แชต แชร์ ช็อก นี้ผมอยากสะท้อนเรื่องที่เป็นด้านมืดของโลกอินเตอร์เน็ต คนที่ใช้โซเชียลทำในสิ่งที่ไม่ดีสิ่งที่ผิด เมื่อทำไม่ดีก็ต้องได้รับผลไม่ดีตอบกลับมา เรื่องนี้ผมใช้ผีเป็นตัวแทนของผลตอบรับหรือบาปกรรมของคนที่ทำผิด โดยผีมันจะอยู่ในการทุกช่องทางในอินเตอร์เน็ตที่กำลังใช้อยู่มันจะคอยหลอกหลอนได้แบบเข้าถึงและใกล้ตัวของผู้ใช้งาน เราจับต้องมันไม่ได้แต่มันทำให้เราสยองและหลอนสุดๆได้ ผีมันจึงเป็นตัวสะท้อนของเนื้อหาสาระหลักในเรื่องนี้ซึ่งเป็นงานที่ท้าทายมาก สำหรับนักแสดงในซีรี่ย์นี้ผมเลือกน้องนิวให้มารับบทเป็นมิลค์ ก่อนหน้านี้ผมเคยร่วมงานกับนิวกันมาก่อนพอได้กลับมาเจอกันอีกทีนิวโตขึ้นมากและมีทักษะในการแสดงที่พัฒนาขึ้นเยอะมาก ส่วนน้องดรีมผมติดตามน้องมาตั้งแต่ฮอร์โมนแล้ว เรื่องนี้ผมให้ดรีมรับบทหนักๆแสดงเป็นลูกหมี เพราะบทนี้มันค่อนข้างท้าทายความสามารถอย่างมาก ซึ่งน้องทั้งคู่ก็แสดงออกมาได้สมจริงไม่ขาดตกบกพร่องเลย สำหรับส้วมผมพยายามพลิกคาแรคเตอร์เขาให้ไม่เหมือนเดิม ตัวเขาเองเขามีแรงขับในการแสดงออกมาได้อย่างดีเยี่ยม ผมทึ่งมากนะที่เขาอินกับบททศได้อย่างแยบยล…”

ด้าน นิว-ปทิตา อัชยาตมวิทยา (รับบทเป็น มิลค์) เล่าเสริมต่อว่า…
“…คาแรคเตอร์ที่ได้รับไม่มีอะไรที่เป็นตัวเองเลยคะ เพราะบทมิลค์คือเป็นคนค่อนข้างที่จะอ้อนผู้ชายหน่อยๆอะไรอย่างนี้ แต่นิวค่อนข้างแข็งกระโด๊กกระด๊ากมากค่ะ ก็เป็นบทที่ค่อนข้างท้าทายกับตัวเองพอสม ควรเลยล่ะค่ะ เพราะเราต้องแสดงให้คนดูเชื่อว่าเป็นมีอาชีพเป็นวล๊อกเกอร์จริงๆ ซึ่งในเรื่องก็ต้องเข้าฉากกับน้อง ดรีมเป็นส่วนใหญ่คะ ในเรื่องเราเป็นเพื่อนสนิทกันคือจะต้องอยู่ด้วยกันตลอดเวลาเป็นคู่หูกัน แต่ลึกๆข้างในเราก็ไม่ได้จริงใจต่อกันเท่าไร เลยเป็นส่วนหนึ่งที่ลึกๆแล้วทั้งสองคนมีปมความขัดแย้งกัน เพราะความอยากได้อยากมีที่แตกต่างกันคือ อย่างมิลค์ก็อาจจะอยู่ในจุดที่ประสบความสำเร็จแล้วมียอดแฟนคลับและคนฟอลโล่ตามเป็นล้าน แต่ทางกลับกันลูกหมียังไม่สามารถมาถึงจุดนี้ได้ ก็เลยทำให้ความสัมพันธ์ของเพื่อนคู่นี้มีความอิจฉาริษยา ชิงดี ชิงเด่น และกระแนะกระแหนกันอยู่ตลอดเวลา จนทั้งคู่ต้องมาพบจุดเปลี่ยนที่ทำให้…”

ฟาก ดรีม-ณัฐณิชา เหลืองอนันต์คุณ (รับบท ลูกหมี) เล่าต่อให้ฟังว่า…
“…คาแรคเตอร์ของลูกหมีเนี่ยก็เป็นเนทไอดอล แต่ว่าเรารู้แหละว่าเราอะไม่ได้แบบว่าเด่นดังเท่ามิลค์ ก็เลยจะมีความซับซ้อนกว่ามิลค์เชคตรงที่จะทำอะไรก็จะคิดวางแผนตลอดเวลาเพื่อให้ตัวเองได้สิ่งที่ต้องการบทนี้ค่อนข้างยากนะคะเพราะว่า ลูกหมี จะเป็นคนที่มีหลายด้านมากๆ ขนาดเขาอยู่กับเพื่อนอะ เขายังไม่เป็นตัวเองเลย ส่วนการทำงานกับพี่นิวนี่ก็เข้าฉากด้วยกันตลอดเพราะว่าเราต้องเล่นเป็นเพื่อนสนิทกัน เราจะต้องช่วยกันส่งอารมณ์ เพราะมันมีหลายซีนมากที่ต้องใช้พลังงานเยอะ อย่างซีนที่ต้องปะทะกันรุนแรงมีทุกอารมณ์ ทั้งโกรธ หวาดกลัว สยองสุดขีดนับว่าเป็นงานที่ท้าทายมากเลยคะ ฝากมาช่วยให้กำลังใจดรีมด้วยนะคะในBangkok Ghost Stories ตอน แชต แชร์ ช็อก พฤหัสที่ 17 พฤษภาคม นี้ดูพร้อมกันไม่มีรีรันคะ…”

 

“ชิน ชินวุฒ” ใน “รถเมล์เที่ยวสุดท้าย” จะหลอนผวาขนาดไหน? บทสรุปจะเป็นเช่นไร??  ติดตามได้ใน Bangkok Ghost Stories ช่อง 33 ที่นี่ที่เดียว!!

“ชิน ชินวุฒ” ใน “รถเมล์เที่ยวสุดท้าย” จะหลอนผวาขนาดไหน? บทสรุปจะเป็นเช่นไร?? ติดตามได้ใน Bangkok Ghost Stories ช่อง 33 ที่นี่ที่เดียว!!

ปิดท้ายบทสรุปความหลอนของภาพยนตร์ซีรีส์ขวัญผวา Bangkok Ghost Stories (แบงค็อก โกสต์ สตอรี่) ที่สัปดาห์นี้จะพาไปพบกับความหลอนตอนสุดท้ายของซีรีส์นี้ในตอน…รถเมล์เที่ยวสุดท้าย  กำกับโดย ทิวา เมยไธสง , วรวุฒิ ถวิลย์วิศิษฏ์วัฒน์  นำแสดงโดย ชิน ชินวุฒ (รับบทเป็น นนท์) , แพน-นันท์ปภัทร ปิ่นโรจน์กีรติ(รับบทเป็น หญิงสาวลึกลับ)   ซึ่งเรื่องราวของตอน…รถเมล์เที่ยวสุดท้าย นี้บอกเล่าเรื่องราวของหนุ่มวัยทำงานชื่อ นนท์ เป็นพนักงานออฟฟิศธรรมดาๆ ที่ชีวิตต้องวนเวียนอยู่กับการทำงานหนักจนดึกดื่นคืนแล้วคืนเล่า นนท์รู้สึกว่าชีวิตของเขาช่างน่าเบื่อ จืดชืดไร้สีสัน กระทั่งคืนหนึ่งนนท์ก็ได้พบกับหญิงสาวที่เขารู้สึกพิเศษบนรถเมล์เที่ยวสุดท้าย แม้จะเป็นเพียงการแอบมองเธอข้างเดียว แต่นั่นก็ทำให้ชีวิตของเขามีความสุขมากขึ้นกว่าเดิม และมันก็มาพร้อมกับจุดเริ่มต้นของเรื่องราวแปลกประหลาด  ทุกครั้งที่นนท์ได้พบหญิงสาวลึกลับผู้นี้บนรถประจำทางเที่ยวสุดท้าย เขาจะต้องเผลอหลับไปและตื่นขึ้นมาเมื่อรถเมล์วิ่งสุดสาย  พร้อมกับได้พบกับวิญญาณที่ตามไล่ล่าเขาด้วยความอาฆาต แม้นนท์จะรู้สึกหวาดกลัวกับวิญญาณที่เขาได้พบบนรถเมล์เที่ยวสุดท้าย แต่นนท์ก็ยังอยากขึ้นรถคันนั้นเพียงเพื่อจะได้พบหญิงสาวลึกลับอีกสักครั้ง แม้มันจะนำมาซึ่งความหวาดผวาก็ตามที!?  เรื่องของนนท์จะจบลงเช่นไรต้องติดตามชมพร้อมๆกัน   ชิน ชินวุฒ  เล่าเสริมให้ฟังต่อว่า…

                   “…นับเป็นอีกครั้งที่ผมมีความรู้สึกอยากเล่นบทนี้มากๆ หลังจากได้อ่านบทและคุยกับพี่ๆ ผู้กำกับแล้ว นนท์กับผมค่อนข้างแตกต่างกันอย่างมากทั้งอาชีพและชีวิตส่วนตัว   นนท์มีอาชีพเป็นนักบัญชีหนุ่มมนุษย์ออฟฟิศนิสัยขี้อายและเป็นคนมีโลกส่วนตัวสูง เขาเป็นคนที่แสวงหาความรักและเขาเชื่อเสมอว่า การพบกันนั้นเป็นสิ่งชั่วคราว ส่วนการพลัดพรากจากกันคือสิ่งสมบูรณ์ เขาจึงชอบอ่านหนังสือจำพวกเรื่อง ความรัก ความตาย โลกมิติคู่ขนาน สิ่งลึกลับที่วิทยาศาสตร์ยังไม่สามารถพิสูจน์ได้  ถามว่าแต่ละซีนมีความยากง่ายขนาดไหน  ผมมองว่าพี่ๆ ผู้กำกับเก่งมากนะ เพราะมันเป็นเรื่องที่ต้องใช้โลเคชั่นบนรถเมล์เป็นหลัก  ซึ่งต้องใช้การเตรียมงานที่แม่นยำเพราะรถเมล์มันต้องวิ่งไปตามถนนรอบกรุงเทพฯ ตลอดขณะที่ถ่ายทำ  และยังมีซีนที่ต้องไปถ่ายที่สุสานรถเมล์อีก ซึ่งสถานที่ถ่ายทำนี้ค่อนข้างน่ากลัวมาก มองไปทางไหนก็มืดมีแต่รถเมล์ที่ถูกปลดละวางแล้ว บรรยากาศมันเงียบมากจนดูวังเวง  ที่สำคัญผีในตอนนี้พี่ๆ ผู้กำกับเขาดีไซด์คาแรคเตอร์ผีให้ออกมาหลอนๆ เห็นแล้วเป็นภาพจำติดตาผมเลย  ส่วนน้องแพนแสดงเป็นหญิงสาวลึกลับที่ผมแอบชอบ น้องเขาเป็นผู้หญิงที่มีลุคนิ่งๆน่าค้นหา ท่าทางของเขาจะดูเป็นหญิงสาวผู้อมทุกข์หน่อยๆแววตาเศร้าสร้อยไร้ความสุข ซึ่งน้องแพนก็ส่งพลังช่วยให้ผมอินและเล่นออกมาได้สมจริง  ผมอยากฝากให้ทุกคนติดตามชมซีรีส์ตอนนี้ให้ได้นะครับ มาดูกับผมไปพร้อมๆกันครับ…”

 

หลังจบละครหนึ่งด้าวฟ้าเดียว สามารถติดตามชม Bangkok Ghost Stories ได้ในวันพฤหัสที่ 7 มิถุนายน นี้ เวลา 22:50น ทางช่อง 3 และ ช่อง 33 ห้ามพลาด!! ซีรีส์หลอน…ไม่มีรีรัน

แก๊งเกรียนเจอดี’ หลอนแบกผีตลอดคืน  ใน Bangkok Ghost Stories ตอน…คนแบกผี

แก๊งเกรียนเจอดี’ หลอนแบกผีตลอดคืน ใน Bangkok Ghost Stories ตอน…คนแบกผี

Bangkok Ghost Stories (แบงค็อก โกสต์ สตอรี่) ส่งตรงความหลอนแรงอย่างต่อเนื่อง  ซึ่งสัปดาห์หน้านี้จะพาไปขวัญผวาในตอน “คนแบกผี” ซีรีส์จบในตอนและไม่มีรีรัน  นำแสดงโดย ธาม-ธามไท แพลงศิลป์ (รับบท เต๋า), โอม-ภวัต จิตต์สว่างดี (รับบท มอส), ปอน-คุณพัทธ์  พิเชษฐ์วรวุฒิ(รับบท ฟร้อง), เจ-จตุพร แดงอุไร (รับบท บิว), พาส-พัชรพล สันติพร (รับบท ออฟ) กำกับภาพยนตร์ซีรีส์โดย ไมค์-ภณธฤต  โชติกฤษฎาโสภณ   โดยเรื่องราวของตอน…คนแบกผี จะพูดถึงแก๊งเด็กวัยเกรียนที่ถูกพ่อบังคับให้ใส่ชุดลูกเสือทำงานจิตอาสาเป็นเวลา 1 คืน เพื่อชดใช้ที่เขาเมาแล้วไปแว้นจนเกิดอุบัติเหตุเข้า โดยมี ฟร้อง กับ บิว เพื่อนก๊วนเดียวกันพ่วงไปด้วยแบบไม่เต็มใจ ทั้งสามบังเอิญเจอ ออฟ และ เต๋า เจ้าหน้าที่ประจำรถกู้ชีพ จึงขอติดรถไปช่วยเหลือสังคมอย่างกล้าๆ กลัวๆ ภารกิจนี้ต้องอยู่กับศพและพบความเฮี้ยนแบบเต็มสตรีม เมื่อบนรถมีแต่ศพกับผีถ้าหนีก็โดนพ่อด่า จนไม่แน่ใจว่าหมดคืนนี้การเป็นจิตอาสาครั้งแรกในชีวิตของพวกเขาจะจบลงอย่างสมบูรณ์หรือจบชีวิตกันแน่!? ต้องไปติดตามชมพร้อมๆกัน ซึ่ง ธามไท เล่าให้ฟังถึงประสบ การณ์ที่มารับบทเป็นจิตอาสาในซีรีส์ตอนนี้ว่า

 “…ผมรับบทเป็นเต๋าวัยสามสิบกว่าๆครับ เต๋าเป็นหัวหน้าหน่วยอาสาสมัครกู้ชีพ ที่มีนิสัยค่อนข้างเข้มงวดนิดนึงและเป็นคนใจร้อน หน้าดุ เสียงดังพูดจาห้วนๆ ทำอะไรถูกต้องรวดเร็วว่องไวตามปณิธานที่เขาตั้งไว้ในการเป็นอาสากู้ชีพ ซึ่งก็จะแตกต่างจากตัวจริงของผมมากในหลายด้าน  ผมรู้สึกอินและต้องคิดให้ลึกกับบทเต๋าคือผมต้องเล่นเป็นเต๋าให้ชัดเจน  ผมเคยดูจากข่าวที่คนประสบอุบัติเหตุต้องเอาตัวรอดให้ได้จริง ณ เหตุการณ์เฉพาะหน้าที่เกิดขึ้น  มันจึงต้องเล่นและทำให้อารมณ์คนดูรู้สึกบีบคั่นกดดันและสนุกไปกับการผจญภัยเพียงชั่วข้ามคืนกับภาระกิจนี้  ส่วนสถานที่ถ่ายทำพี่ไมค์-ผู้กำกับ เขาใช้สถานที่จริงในถนนหลายสายที่เคยเกิดอุบัติเหตุบ่อยๆ  มาผูกเข้ากับเรื่องราวในตอนนี้และค่อยๆ บิวไปเรื่อยๆ จนถึงจุดพีคสุดและทำทุกอย่างให้ออกมาสมบูรณ์ที่สุด  ส่วนคาแรคเตอร์ผีมันค่อนข้างน่าสยดสยองเพราะผีจะมาในรูปแบบต่างๆที่เคยประสบอุบัติเหตุบนท้องถนนมาแล้ว  ซึ่งมันทำให้ผีแต่ละตัวดูน่ากลัวมากๆ…”

ซึ่ง โอม-ภวัต จิตต์สว่างดี เล่าเสริมว่า

 “…ในเรื่องโอมรับบทเป็นมอสครับ มอสเด็ก ม.ปลายวัยเฮ้ว ทำตัวเป็นหัวหน้าแก๊ง กล้าได้กล้าเสีย ทำอะไรไม่ค่อยคิดหน้าคิดหลังชอบเสี่ยงปากดีไปทุกเรื่องรักมอเตอร์ไซด์เป็นชีวิตจิตใจ แต่ตอนนี้ถูกพ่อริบเอาไว้แลกกับการแต่งชุดลูกเสือมาบำเพ็ญประโยชน์เป็นอาสาสมัครหนึ่งคืน ซึ่งเป็นหนึ่งคืนที่เปลี่ยนชีวิตทั้งมอสและเพื่อนๆไปตลอดกาล อยากฝากให้ทุกคนติดตามชมกันเยอะนะครับ ที่สำคัญไม่มีรีรันครับ…”

               หลังจบละครหนึ่งด้าวฟ้าเดียว สามารถติดตามชม Bangkok Ghost Stories ได้ในวันพฤหัสที่ 31 พ.ค. นี้ เวลา 22:50น ทางช่อง 3 และ ช่อง 33 ห้ามพลาด!! ซีรีส์หลอนไม่มีรีรัน