พี่นาค PEENAK UNIVERSE POP UP EXHIBITION

พี่นาค PEENAK UNIVERSE POP UP EXHIBITION

 

จริงๆพี่นาคมันมาจากประโยคของเณร กับ เด็กวัด ในเรื่อง ซึ่งเวลาเค้าเรียกนาคตัวนี้จะใช้คำว่าพี่นาคแล้วมันก็เลยอาจจะเป็นเรื่องของความติดปาก มันเหมือนเวลาที่พ่อแม่เราจะเรียกลูกที่เป็นนาคว่า พ่อนาค เราก็เลยคิดว่าคำว่าพี่นาคมันน่ารักดี ส่วนคำว่านาคจริงๆทุกคนอาจจะฟังแล้วก็คุ้นหูกันอยู่แล้ว อาจจะไป remind นึกถึงแม่นาค จริงๆแล้วคำว่านาค มันมาจากพญานาค ซึ่งผมเอาเรื่องของพญานาคที่อยากบวชมาใช้ เราก็เลยตั้งชื่อเรื่องนี้ว่า “พี่นาค”

“ งานบวชก็มา ความผวาก็มี ” ฤกษ์งามยามดีสู่การอุปสมบทที่ญาติโยมไม่กล้ามา
โหน่ง หนุ่มหล่อวัยเบญจเพสสุดซวย ที่ถูกหักอกและตกงานในเวลาเดียวกัน เขาหอบหิ้วความเสียใจ ขึ้นรถโดยสารเพื่อเดินทางกลับไปพักใจที่บ้านเกิด แต่กลับซวยซํ้าสอง เมื่อไปเจอกับเพื่อนเก่าอย่าง บอลลูน เฟิร์ส และก๊อต แก๊งกะเทยเพื่อนซี้ หอบหิ้วดีกรี แฟชั่นนิสต้า ที่หวังเคลมโหน่งอย่างออกนอกหน้าจนโหน่งเอือมระอา แต่เพื่อนซี้มีอันต้องซี้ไปจริงๆ เมื่อรถโดยสารที่พวกเขานั่งมา เกิดอุบัติเหตุจนทําให้ก๊อตเสียชีวิต ทั้งสามโศกเศร้า และยังหวาดผวาต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จึงตกลงปลงใจจับมือพากันไปบวชล้างซวย แต่เคราะห์ซํ้ากรรมซัดขัดใจตุ๊ด เมื่อวัดที่ทั้งสามคนต้ังใจไปขอบวชนั้น มีเรื่องเล่าขานว่าวัดนี้มีผีพี่นาคที่เฮี้ยนแรงขั้นสุด เกิดเป็นอาถรรพ์อันน่าสะพรึงรอคอยอยู่ งานบวชก็ต้องมี เรื่องผีก็โผล่มา กลายเป็นความผวาเลเวลอัพ ทั้งสามจึงรวมพลังตั้งสติวีนวัดแตก เพื่อให้ได้บวชอย่างที่ตั้งใจ แต่การบวชครั้งนี้จะลุล่วงสมปรารถนา หรือพวกเขาจะกลายเป็นผีนาคเฝ้าวัดสานต่อตํานานสยองพี่นาค คนต่อไป
เตรียมบาตรให้พร้อม ซ้อมวิ่งให้ไว เพราะผีที่คุณจะได้เจอ แม้แต่พระยังต้องร้องว่า “รัน” กับ พี่นาค ภาพยนตร์สยองขวัญสั่น ขากรรไกรที่จะทําให้คุณผวาหัวโกร๋นจนต้องโกนหัว
ความเป็นมาของตัวละครภาคแรก
” ในส่วนของการวางตัวนักแสดง โจทย์หลักของบทหนังเรื่องนี้เลยคือต้องมาอยู่วัดนี้ และต้องบวชให้สําเร็จให้ได้ ความรุนแรงของแรงอาฆาต และอาถรรพ์ของวัดแห่งนี้จะทําให้ทุกคนที่ตั้งใจมาบวช กลับต้องเกิดเหตุทําให้เสียชีวิตในขณะที่เป็นนาคทุกราย ซึ่งตัวละครโดยแก๊ง 3 คนก็มีที่มาที่ไปที่มีเหตุจะจําเป็นต้องมาบวชวัดนี้ และก็จะต้องฝ่าฟันอาถรรพ์ต่างๆ ของวัดนี้ไปให้ได้ ผมได้ออกัส มารับบท โหน่ง โหน่งเป็นตัวแทนของผู้ชายรุ่นใหม่ที่ไม่เชื่อเรื่องการบวชเลย ประกอบกับพ่อแม่คาดหวังอยากให้บวช ส่วนเอมมารับบทเป็นบอลลูน กระเทยที่มีความเชื่อเรื่องสิ่งศักดิ์มากๆ แต่ด้วยความปากไม่ดี และท้าทายเลยไปบนที่วัดแห่งนี้ว่าถ้าถูกหวยก็จะพาเพื่อนมาบวชให้ และความซวยก็มาตกอยู่กับเพื่อนอีกสองคนคือ ก๊อต และเฟิร์สเข้าไปด้วย ได้เจมส์มารับเฟิร์ส เฟิร์สเป็นครูสอนทําอาหารรักความสะอาด สะอ้าน แต่กลับต้องมาบวชเพราะความปากเสียของเพื่อน จนพวกเขามาเจอ จุ๋ย รับบทโดยน้องพลอยชมพู ที่มีคาแรคเตอร์เป็นหญิงสาว สวยที่มีนิสัยเรียบร้อย และมองโลกในแง่ดี จุ๋ยเพิ่งสูญเสียพี่ชายเพียงคนเดียวที่มีไป (นาคจักร) ด้วยเหตุนี้เองทําให้จุ๋ยได้พบกับโหน่งและเพื่อนๆ ส่วนเณรน็อตรับบทโดยน้องต้า เณรน็อตผมจะสร้างให้มีคาแรคเตอร์เป็นผู้ใฝ่รู้รอบรู้ทุกด้านจึงได้รับหน้าที่ให้เป็นพี่เลี้ยงของแก๊งโหน่ง บอลลูน เฟิร์ส เพื่อคอยดูแลให้ท้ังสามคนที่กําลังเตรียมตัวจะบวช ซึ่งภารกิจที่สําคัญที่ต้องพาทั้งสามคนฝ่าด่านผีพี่นาคไปให้ได้ ส่วนอ๊อดเด็กวัดผมได้น้อง ปอนด์ มารับบทนี้ อ๊อดจะมีลักษณะเป็นเด็กแว๊นเกรียนๆ เป็นคู่หูของเณรน็อต ตัวอ๊อดด้วยความที่เป็นหลาน สัปเหร่อจึงค่อนข้างรู้เรื่องราวความเป็นมาในวัดเป็นอย่างดี “

และแล้วความสงบก็กลับมาสู่วัดธรรมนาคานิมิตรอีกครั้ง หลังจากที่พระโหน่ง พระเฟิร์สและพระบอลลูน เสร็จสิ้นภารกิจ“บนวัดไหน..ให้บวชวัดนั้น!” เคยสู้รบตบตีกับผีนาคนนท์ได้สำเร็จพระทั้ง 3 หวังใช้ชีวิตอย่างสงบอยู่ใต้ร่มกาสาวพัสตร์ แต่อนิจจังชะตาชีวิตของพวกเขากลับไม่ได้โรยด้วยกลีบดอกบัวอย่างที่คิด เมื่อเกิดเหตุบางอย่างอันทำให้พระบอลลูน พระเฟิร์ส ได้แอบทำการสึกแบบลับๆและหอบข้าวหอบของหนีไปกลางดึก ปล่อยให้พระโหน่งอยู่รับใช้ศาสนาในวัดที่มีตำนานความสยองกับสองคู่หู เณรน๊อต และ อ๊อดต่อไป…กาลเวลาล่วงเลยกลับมีเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เมื่อบอลลูนและเฟิร์สได้ย้อนกลับมาที่วัดในสภาพร่อแร่ปางตายเพราะอยากใช้ชีวิตแบบฆราวาส แต่เจอผีนาคตนใหม่ตามอาละวาดจนกะเทยคู่ซี้เกือบสิ้นชื่อ ต้องขอกลับมาบวชซ้ำรอบสอง หวังล้างคำสาปที่วัดแห่งนี้ไม่มีใครเคยได้สึก! ถึงแม้ผีนาคตนนี้จะเพิ่มดีกรีความดุความเฮี้ยนทวีคูณ แต่ก็ยังพอมีแสงสว่างที่ปลายธูปให้บอลลูนและเฟิร์สมีกำลังใจจะสู้ต่อ เมื่อได้พบกับ คุณโท(โทมินจุน) นักร้องลูกครึ่งไทย-เกาหลีสุดหล่อที่มาขอบวชในวัดแห่งนี้ด้วย ทำไมพระวัดนี้ถึงสึกไม่ได้? แล้ว 2 กะเทยเพื่อนซี้ บอลลูน เฟิร์ส จะรอดถึงวันได้ห่มผ้าเหลืองหรือไม่?
เตรียมท่องบทสวดกรวดน้ำกับความน่าสะพรึงจนจีวรต้องสะบัดอีกครั้งได้ใน…“พี่นาค 2”

 

เมื่อ “อ๊อด” สัปเหร่อหนุ่มจอมแสบแห่งวัดธรรมนาคานิมิตร ขุดเจอกำไลข้อเท้าทองคำโบราณ ในหลุมฝังศพสมัยสงครามโลก และหยิบติดมือมา ทำให้อ๊อดโดนคำสาปประหลาดจากกำไลที่ทำให้เขามีเกล็ดคล้ายงูขึ้นบนร่างกายและเริ่มลามเป็นแนวยาวไปรอบลำตัว ยิ่งเกล็ดลามมากเท่าไหร่ก็ยิ่งมีอาการป่วยไข้หนักมากขึ้น พร้อมกับปลุก ผีพี่นาค เจ้าของกำไลคู่นี้ที่มีเกล็ดตามตัวเหมือนที่อ๊อดกำลังเป็น ออกตามมาล่าอาละวาดทวงกำไลต้องคำสาปอันนี้คืน ทำให้อ๊อด และ เณรน็อต สองคู่หูเพื่อนซี้ ร่วมกับ บอลลูน และเฟิร์ส สองกะเทยสุดแสบผู้จัดการวงไอดอลเกาหลี คุณโท ไอดอลเกาหลียอดนิยมสายบุญ และ แปมแปม ยูทูปเบอร์ชาวเกาหลีจอมซ่า ที่มาทำรายการท่องเที่ยวเมืองไทยต้องร่วมมือกันเพื่อตามหาตำนานและวิธีล้างคำสาปของกำไลโบราณคู่นี้ก่อนที่อ๊อดจะตายเพราะคำสาป หรือโดนผีพี่นาคฆ่าตายเสียก่อน
ปฐมบทความอาฆาตกับตำนานที่เล่าขานไม่รู้จบ โดยพี่นาค3 ในภาคนี้จะเล่าถึงต้นกำเนิดของพี่นาค1,2 ต้องมาดูว่าเรื่องราวความอาฆาตแค้นของพี่นาคเกิดขึ้นได้อย่างไร? และคำสาปที่อ๊อดต้องเจอเหล่าเพื่อนๆจะหาวิธีล้างคำสาปก่อนที่อ๊อดจะตายได้หรือไม่?

 

การกลับมาตาม “สัญญา” ของภาพยนตร์ฮาสยองขวัญใจมหาชน หลังจากผ่านพ้นศึกล้างคำสาปแห่งปฐมบทพี่นาค โทมินจุน (มีน พีรวิชญ์) เซเลบลูกครึ่งไทย-เกาหลี ได้มีโอกาส กลับมาบ้านเกิดในวัยเยาว์ เพื่อช่วยบูรณะโบสถ์เก่าแก่ของวัดประจำชุมชน โดยไม่ลืมควงแขน บอลลูน (เอม วิทวัส) กับ เฟิร์ส (เจมส์ ภูริพรรธน์) ที่ได้รับการอวยยศเป็นผู้จัดการส่วนตัวคุณโทก็มาที่นี่ด้วยเช่นกัน แค่ก้าวแรกที่เดินเข้ามา สัญญาณแห่งความอาฆาตจากผีพี่นาคภายใต้หน้ากากสยอง ก็พุ่งเป้ามาที่คุณโทอย่างจัง คำสัญญาและความเกลียดชังกำลังก่อตัวขึ้นจากความทรงจำในอดีตที่ถูกลืมเลือน ขณะที่คุณโทโดนตามจองล้างจองผลาญอยู่นั้น ก็ได้เจอ น็อต (ต้า อธิวัตน์) อดีตเณรเทพแกดเจ็ต แพรรี่ (นนท์ อินทนนท์) แม่ครัวปากแจ๋ว และ โบนัส (มินตัน ทาสกระดาน)เครื่องด่าแห่งหมู่บ้าน จะมาร่วมรับแรงกระแทกแห่งชะตากรรมที่หนีให้พ้นยังไงก่อน
ภายใต้หน้ากากสยอง… ผีพี่นาคตนนี้คือใคร? บาปและกรรมหนักแค่ไหนถึงอยากให้ตายตกไปตามกัน? นี่คือจุดเริ่มต้นของตำนานพี่นาคอีกบท พร้อมจะมาบดขยี้มิตรภาพ อาละวาดมันทุกภพชาติ กระหน่ำความฮาให้ป่าช้ากระเจิง!

 

ความสนุกของหนังเรื่องนี้ อย่างความรู้สึกของคนที่ไม่อยากบวชแต่มันมีเหตุผลบางอย่างที่มันต้องไปบวช นั่นหมายความว่ามันมีสภาพจิตใจที่ไม่ต้องการบวชแล้วดันเข้าไปที่วัดที่มันมีผีที่ไม่อยากให้มันบวช แต่มันต้องบวช! ถ้าไม่บวชกูก็ตาย ผีก็บอกกูไม่ให้มึงบวช มันก็เลยเป็นการปะทะกันระหว่างคนกับผี ผมว่าผมเล่าแค่นี้มันก็เกิดความบันเทิงแล้วแหละว่าจะเกิดอะไรขึ้น

 

  • แรงบันดาลใจในการออกแบบงานสร้าง

งานสร้าง กว่าจะเป็น “พี่นาค” ที่ทุกคนพูดถึง

     พี่ไมค์ ผู้กำกับ เผยว่า “ผมจะให้โจทย์เขาว่าผมอยากได้แบบนี้ ผมอยากมีศาลขนาดนี้แล้วก็จะเล่าที่มาที่ไปกัน แล้วก็คุยกับพี่ยักษ์ Production Design อย่างชัยที่เป็นทีม Art ว่าเราอยากได้แบบไหน สิ่งที่ทีม Art ทำมาให้คือจะเนียนมาก จะเหมือนแบบอย่างศาลนี่แบบทุกคนดูแล้วว้าว เพราะฉะนั้นความสมจริงของภาพยนตร์เรื่องนี้ บอกได้เลยว่าคือทางทีมArt เราจัดเต็มทุกอย่าง เพราะฉะนั้นมันก็เลยเกิดปรากฏการณ์ของการเซ็ตทุกฉาก”

ณัฐนันท์ ฉิมประเสริฐ ผู้ออกแบบสร้าง
” หนังเรื่องนี้ได้เสนอมุมมองของนาคออกมาเป็นแบบนี้  ข้อสำคัญที่สุดของ Art Director ที่จะทำภาพยนตร์อย่างแรกเลย คุณต้องมีภาพที่สวยงามในใจคุณก่อน โลกของหนังคือเล่าเรื่องราวที่เราจับต้องได้ แยกให้เห็นชัดเลยว่า 3 กุฏินี้คือ 3 อย่าง เพราะว่ามันเป็นภาพจำหนัง มันแค่ 90 นาที ถ้ากุฏิทุกอันเหมือนกัน มันจะไม่บ่งบอกเลยว่ากุฏินั้นคือกุฏิของใคร มันคือการเรียกว่าเอาศิลปะ เอาการจัดวาง มากำหนดดึงคนให้เข้าใจว่าเมื่อคนเห็นกุฏิมีแต่บาตร กุฏินั้นเป็นเฟิร์สแน่ เพราะว่ามันเป็นบาตร กุฏินี้มีจีวร มีโลงเยอะ เป็นของอีกคน นี่แหละเป็นกุฏิของแต่ละคนๆ เรื่องงานก่อสร้างหรือเรื่องการผลิต เราออกแบบ จัดวางใหม่ ในมุมมองที่คล้ายๆเดิม แต่ไม่เหมือนเดิม หนังเรื่อง “พี่นาค” เป็นเรื่องที่ทุกคนเข้าถึงได้ในชีวิตประจำวันของทุกคน คนที่เป็นผู้นับถือศาสนานี้ ก็ไม่ได้กำหนดรูปแบบว่าจะต้องแบบไหน ข้อสำคัญหลังจากที่มีความสุขกับความสนุก ความตลกอะไรก็แล้วแต่ ในเรื่องนี้บอกอย่างหนึ่งในมุมมองของศิลปะว่า ศิลปะค้ำชูศาสนาก็จริง แต่ศาสนาเป็นผู้ที่ให้กำเนิดศิลปะด้วย ค้ำชูศิลปะด้วย หัวใจของหนังเรื่องนี้ที่บอกเล่าในทางด้านศิลปะจริงๆ เราบอกเล่าว่า ปล่อยวางแล้วสนุกไปกับมัน พูดถึงศาสนาพุทธในเรื่องของภาพยนตร์เรื่องนี้บอกว่า คุณเป็นเพศใดก็ได้ถ้าคุณเข้าถึงหลักปรัชญา คุณสามารถที่จะเข้าใจเรียนรู้ได้เหมือนหนังสือเล่มหนึ่ง ไม่แบ่งชนชั้น ไม่แบ่งเพศใดๆ ทั้งสิ้นในการที่จะเปิดอ่าน แล้วสนุกไปกับหนังเรื่องนี้ ”

 

  • Key Visual ของแต่ละภาค

     “นาคเนี่ย เริ่มต้นจริงๆของเขาอะ เขาก็มีศักดิ์ยศถาบรรดาศักดิ์อยู่เหมือนกัน นาคอันนี้เราก็เลยมีคอนเซปที่ว่าขอให้มันเป็นนาคที่โชว์ความเป็น อ่า ภูมิปัญญาพื้นถิ่น ศิลปะเเละวัฒนธรรมแบบชาวบ้าน เรื่อง แล้วก็ธรรมชาติที่จะมานำเสนอสำหรับชุดนาค แล้วก็ต้องให้ดูดี คือจริงๆแล้วเหมือนเจ้าชายแหละ ทำให้เขาเป็นเจ้าชายแต่ดัดแปลงให้ปรับปรุงให้มันมีความเป็น พื้นถิ่นอีสานโดยรวม เป็นค่าเฉลี่ย เราไม่ได้จำกัดชี้เฉพาะว่าเป็นแบบไหน เราให้อารมณ์มันออกว่าเออเป็นอีสาน เป็นแบบ ซึ่งเป็น มีความยาวนานอะอย่างน้อย 2 พันปี 4 พันปีมาแล้วอะ ลวดลายที่ใช้ เราก็กลับไปใช้แบบ native หรือเป็น เป็นแบบชาวบ้านไม่ใช่แบบชาวบ้าน native เป็นเหมือนกับ เออ ศิลปะบริสุทธิ์ pure art แบบ ชนเผ่า ซึ่งแต่ก่อนนี้บ้านเราทั้งหมดเนี่ยก็อยู่กันระบบชนเผ่ามาตลอด แล้วพอนานๆเข้าด้วยความเจริญทำให้เราหลงลืมไป เราก็ ทุกๆภาคเราพยายามที่จะเสนอในแง่ของมุมทางด้านศิลปะในของแต่ละพื้นถิ่นเอามาขาย ซึ่งถ้าใครได้ติดตามตั้งแต่ภาค1 ภาค2 ภาค3 จะเห็นว่านาคเนี่ย ได้ถูกออกแบบดีไซน์ คุณสามารถเห็นได้ในอินเตอร์เน็ต แต่คุณไม่สามารถเห็นได้ในทั่วๆไป ถ้าคุณเป็นคนพื้นถิ่นอื่น คุณก็ไม่เห็นสิ่งนี้ ทีนี้หนังอะไม่ได้จำกัดว่าเป็นภาคไหน สำหรับใครที่เป็นผู้ดู แต่เราค่อยๆนำเสนอในแต่ละภาคว่า อะ ภาคนี้อีสานแบบนี้เขาก็มีนะ อีสานเหนือเขาเป็นอย่างนี้ อีสานใต้เขาเป็นอย่างนี้ อีสานที่เป็น อีสานที่เป็นเผ่ายันเขาก็เป็นแบบนี้ อีสานที่เป็นเผ่าไททรงดำ คือถ้ามันเป็นไปเรื่อยๆคุณจะไม่ได้เห็นนาคที่ไม่เหมือนกันหรอก ในแต่ละนาคในการดีไซน์ในแต่ละชุดเขาอะ เขาจะมีคอนเซปที่ใกล้เคียงกันแต่สไตล์หรือรูปแบบจะไม่เหมือนกัน อันนี้เราก็จะนำเสนอในแบบเจ้าชายที่เป็นนาคแล้วก็เป็นเจ้าชายที่เป็นเจ้าชายแบบชนเผ่า ถ้าเราคิดถึงหน้ากากเนี่ย ประเพณีหน้ากากเนี่ยไม่ได้มีแค่ประเทศไทยที่เดียว ไม่ได้มีแค่ด่านซ้ายที่เดียว ตั้งแต่ภาคใต้ไปจนถึงบาหลี ตั้งแต่ภาคเหนือไปจนถึงเผ่าพยูไปถึงเผ่านากาที่อินเดีย เหนือขึ้นไปที่ตอนใต้ของประเทศจีนก็ยังมีการ ไอ วัฒนธรรมการใช้หน้ากาก ซึ่งการใช้หน้ากากเนี่ยอยู่ในวัฒนธรรมพวกผี หมายถึงเวลาที่เราจะต้องสวมบทบาทเป็นผีตนใดอะ เราก็จะใส่อารมณ์เดียวกับหัวโขนซึ่งหัวโขนนี่พัฒนามาจากวัฒนธรรมหน้ากากซึ่งอยู่ในพื้นถิ่นของพวกเอเซีย ไปจนถึงเอเซียกลาง ไปจนถึงเอเซียทั้งหมด เพราะว่าเราไม่สามารถที่จะแต่งให้เหมือน เราทำยังไงก็ได้อะอย่าให้เหมือนคนเพราะเขาคือผี คำว่าผีเนี่ยไม่ได้หมายถึงผีที่น่ากลัว ผีฟ้าก็คือผี ผีแถนก็คือผี คำว่าผีคือคนที่ตายแล้วไม่ได้มีกายเนื้อมนุษย์ แต่เรามารู้จักคำว่าผีอะเรารู้จักแค่ว่าผีอะคือสิ่งที่มันน่ากลัว จริงๆแล้วผีคือสิ่งที่ไม่มีชีวิตไม่มีรูปร่างแล้ว มีแต่ความเป็น เขาเรียกมีแต่กายละเอียดอะไม่มีกายหยาบ”

 

  • Easter Egg ของละภาค

พี่นาค
“ถ้ากูไม่ได้บวช ก็ไม่มีใครได้บวช” …
จากตำนานเปิดปฐมฤกษ์ เมื่อนาคไม่กลัวผี และ ผีไม่กลัวพระ

พี่นาค2
“ถ้ามึงสึก มึงตาย” …
สานต่อสู่ตำนาน ผีสวดบทชินบัญชร คาถาที่มึงสวด กูสวดมาก่อนมึงเกิด

พี่นาค3
“ไผลักของกูไป กูเอาตาย”
ส่งต่อการแก้คำสาป ของกรรมที่ทำร่วมกัน

พี่นาค4
“เกิดมาหน้าผีไม่มีใครรัก เกิดมาอัปลักษณ์ ไอ้เด็กหน้าผี”
สู่การกลับมา ตามคำสัญญา ของใครบางคน

 

  • Director’s Statement

พี่นาค
” หนังเรื่องนี้ผมเริ่มต้นไอเดียจากการที่ผมได้บวชมา ซึ่งผมเกิดความสงสัยว่าทําไมเวลาคนที่จะบวชเป็นพระได้คือต้องบวชนาคก่อน ทําไมไม่บวชพระเลย ซึ่งเวลาที่เป็นนาคแล้วก็จะรู้สึกศักดิ์สิทธิ์ขึ้นมาทันที จากการที่ผมได้หาข้อมูลมาซึ่งคําว่า “นาค” มาจากพญานาค เมื่อสมัยพุทธกาลพญานาคได้แปลงกายมาเป็นมนุษย์ เพื่อต้องการขอบวชเป็นพระภิกษุสงฆ์ แต่โดนจับได้ว่าไม่ใช่มนุษย์ เป็นพญานาคแปลงกายมา ซึ่งตามหลักของพุทธศาสนาแล้ว บุคคลที่จะสามารถบวชได้ต้องเป็นมนุษย์เท่านั้น เมื่อพระพุทธองค์ให้นาคสึกจากการเป็นพระ นาคเสียใจเป็นอย่างมาก จนถึงกับหลั่งน้ำตาเพราะความน้อยเนื้อตํ่าใจว่าตนไม่ได้เกิดเป็นมนุษย์ จึงขอร้องให้หมู่ภิกษุเรียกผู้ที่จะบวชว่านาค เพื่อให้ระลึกถึงตนและชื่อของตนจะปรากฏอยู่ชั่วกาลนาน นับแต่นั้นมาก่อนจะบวชเป็นพระจึงเรียกว่า บวชนาค มาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งตรงนี้เองที่เป็นจุด สําคัญที่ยังไม่มีใครเคยพูดถึงเลย ผมเลยหยิบไอเดียตรงจุดนี้มาทําเป็นภาพยนตร์ “พี่นาค” และที่ผ่านมามีหลายเคสนะที่อยากบวชพระ แต่กลับบวชไม่สําเร็จ ต้องมาจบชีวิตลงตอนเป็นนาค ซึ่งจุดนี้เองที่ผมอยากเล่าเรื่องอีกมุมหนึ่งที่สะท้อนความไม่สมหวังในการบวชพระ ”

พี่นาค2
” เริ่มต้นจากภาคแรกที่ทิ้งปมปริศนาเอาไว้ท้ายเรื่อง เราจึงมาทำตอนจบเป็นภาค2 คือวัดนี้นอกจากบนวัดไหนให้บวชวัดนั้นแล้ว ยังมีอีกคำสาปคือ บวชได้แต่…ห้ามสึก ทำยังไงก็ห้ามสึก สึกแล้วต้องตาย! มันทำให้ตัวละครอย่างตัวเฟิร์สกับบอลลูนและโหน่งที่บวชอยู่นั้นมีบางอย่างที่มันจำเป็นต้องฝ่าภารกิจทุกอย่างไปให้ได้ทุกสิ่งที่จะทำในภาคสองนี้มันต้องดับเบิ้ลคูณสอง และมันต้องทำให้คนดูรู้สึกได้ ถ้าภาคที่แล้วมันมีความตลก ภาคนี้ต้องตลกแบบดับเบิ้ล มีความน่ากลัวก็ต้องมีมากกว่าภาคที่แล้ว และตัวบทในภาคสองนี้เรายิ่งเข้าใกล้พี่นาคมากกว่าภาคแรกแน่ๆ บทของตัวละครทุกตัวมันมีมิติที่น่าติดตามเป็นอย่างมาก ผมเพิ่มสีสันเข้าไปในตัวละครให้มันเห็นถึงความแตกต่างและหน้าที่ที่ทุกคนต้องฝ่าฟัน ซึ่งมันทำให้ พี่นาค 2 จะมีครบรสความสนุก ผีพี่นาคภาคนี้มันต้องมีความต่างที่ชัดเจน มันต้องมีความโหดเพราะผมต้องการได้ผีที่มันเคียดแค้นขึ้นมากกว่าเดิม มันอาจดูเป็นโจทย์ที่ยากสักหน่อยแต่รับรองว่าสนุกแน่นอน เพราะผมลงรายละเอียดในคาแรคเตอร์ของพี่นาคเยอะมากไม่ปล่อยง่ายๆ ในส่วนของการเตรียมงานสร้างภาคนี้ยากกว่าภาคที่แล้วเยอะมาก เรียกว่าสุดๆ เพราะทุกโลเคชั่นที่เราเข้าไปถ่ายทำเราให้ความสำคัญกับสิ่งรอบข้างมากมีสถานที่อันซีนแน่นอน และอย่างเวลาที่ต้องไปถ่ายในป่าช้า เราก็จะเข้าไปถ่ายในป่าช้าจริงๆ เราจะไม่มีการมาเซ็ตหลอกว่านี่คือป่าช้านะแบบนั้นเราไม่ทำ ผมเชื่ออยู่อย่างนะถ้าเราได้ถ่ายในสถานที่จริงและได้รับความรู้สึกจริงๆทุกอย่างมันจะถูกถ่ายทอดออกมาได้สมจริงกลัวต้องกลัวจริง มันน่ากลัวโดยธรรมชาติมันดีกว่าการเซ็ตอัพอยู่แล้วโลเคชั่นทุกที่ๆเราไปถ่ายผมว่าสุดนะแค่เห็นก็ขนลุกแล้ว เพราะว่าเราถ่ายหนังผีเราก็เอาของจริง-ที่จริง แต่เราไม่ได้เอาผีตัวจริงมาเข้าฉากนะ แต่ในหนังผมมีหรือเปล่าก็ไม่รู้นะผมก็ไม่รู้ แต่ที่แน่ๆเราถ่ายป่าช้าจริงๆ และไม่เว้นแม้กระทั่งสัตว์เลื้อยคลานต่างๆที่นำมาเข้าฉากก็ของจริง ผมว่าคนดูภาคนี้อิ่มแน่นอน ”

พี่นาค3
” ภาคนี้ผมวางโครงเรื่องไว้ให้แตกต่างจากสองภาคที่ผ่านมา แต่ยังคงความสนุกในภารกิจต่างๆ ที่จัดให้ต้องสุดกว่าสองภาคที่ผ่านมาอย่างแน่นอน ที่สําคัญผมยังคงให้ความสําคัญกับทุกๆเรื่อง ผมจะลง detail ทุกอย่างเพื่อให้หนังออกมาสมบูรณ์ที่สุด ผีพี่นาคในภาคก่อนอาจจะแค่ได้ยินเสียงก็กลัวแล้ว แต่สําหรับผีพี่นาคในภาคมันคือจุดเริ่มต้นของความเคียดแค้น ที่เป็นจุดเกิดของความอาฆาต ที่ผมตั้งใจดีไซน์ให้ต่างไปจากเดิม อย่างโลเคชั่นต่างๆทุกสถานที่ที่เราไปถ่ายทําล้วนเป็นสถานที่จริงๆ ทุกอย่างที่เห็นในหนังคือของจริง แน่นอนว่าการไปถ่ายทําในสถานที่จริงย่อมมีความยากลําบากแน่ๆ แต่ผลลัพธ์ที่ได้มันคุ้มค่าที่สุด ”

พี่นาค4
” ผมเริ่มต้นมาจากซีนปิดท้ายของพี่นาค3 ถ้ายังจํากันได้เราหยิบปมที่ทิ้งไว้ท้ายเรื่องมาขยายและตีความต่อในภาคใหม่นี้ ซึ่งแน่นอนว่าตัวละครของพี่นาค ในทุกๆภาคจะไม่ซํ้ากันเลย แต่ละภาคจะมีการตายที่แตกต่างกัน อย่างภาคแรกมันเกิดอุบัติเหตุตาย ภาค2ตายจากการที่เป็นโรคตาย ภาค3ตายเกิดจากอาถรรพ์ พอมาถึงภาค4นี้ ผมเลยหา gimmick ที่ไม่ซํ้าคือให้พี่นาคตายจากอะไร ต้องรอดูกันครับ ซึ่งมันจะฉีกออกไปเลยแบบคาดไม่ถึงเลย ทําให้มันเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวที่เกิดขึ้น จากนั้นผมเริ่ม research ข้อมูลจากคาแรคเตอร์ของตัวพี่นาคก่อนว่าเราอยากให้มันไปในทิศทางไหน จนไปถึงจุดพีค แต่เราก็ยังไม่ทิ้งแกนหลักเดิม คือต้องมีพญานาคในทุกภาค ผมเลยให้โจทย์กับพี่เต๋าทีมเขียนบทว่า ต้องหักมุมยังไงและทํายังไงให้พญานาคยังคงสอดคล้องในเรื่อง ”

 

  • อุปสรรคในการถ่ายทำ

พี่นาค
” พี่ว่ามันเป็นเรื่องของการใช้ชีวิต เราจะใช้วิธีรวมตัวกัน เวลาเข้าห้องน้ำก็จะไปพร้อมกัน เพราะเราไม่รู้ว่าจะเจอผี หรือเจองู แต่ที่แน่ๆเราเจอยุง และด้วยความที่วัดป่าจริงมีโอกาสเจองูสูงมาก แล้วก็เดินไปตรงไหนก็หลุมศพไปหมด หลุมศพแทบทุกตารางนิ้ว ซึ่งหายากมากนะฟีลเนี้ย ป่าช้าแบบที่เราเห็นจะมีเป็นระรอกว่าว่าวันนั้นเค้าจะมารับรู้อะไรบ้าง เช่นวันไหนเราจุดธุปเราจะมีของไหว้ เค้าก็จะโหนมโหรี ฉันรู้แล้วนะ ฉันดูอยู่นะ ซึ่งเราเจอกันทุกวัด โดยเฉพาะโลเคชั่นหลักเราจะเจอหมาหอน เริ่มมโหรี เสียงหมาก็จะหอนตั้งแต่โบสถ์เก่าถึงโรงแรมเพื่อเป็นการรับรู้อะไรอย่างนี้ เวลาพวกพี่ไหว้ หรือบางครั้ง ด้วยความที่พี่เชื่อเรื่องอะไรพวกนี้อยู่แล้วพี่ก็จะสวดมนต์ทุกครั้ง สวดมนต์และแผ่เมตตาทุกครั้ง ที่นั้นจะเป็นที่ที่เราจะไปทำอะไรลึกลับไม่ได้เลยนะ ทุกตารางนิ้ว เอาง่ายๆเลยคือเราเจอหลุมศพโบกปูนเยอะมาก หรือที่ฝังกับดินที่เราไปเดินอะไรแบบนี้ พี่เชื่อว่าช่างไฟส่วนใหญ่ หรือทีมงานโปรดักชั่นทุกคน เวลาจะฉี่ก็เดินหาห้องน้ำจะไกลแค่ไหนก็ไม่มีการทำอะไรเลอะเทอะ ด้วยความที่ความอึมครึมของสถานที่ ”

พี่นาค2
” ยังคงมีปัญหาคล้ายภาคแรกคือ เรื่องบทภาพยนตร์ที่ยังตั้งใจเน้นสร้างความ ‘วายป่วง’ ให้กับตัวละคร จนทำให้เราสงสัยในการกระทำสุดโต่ง และดูจะหาเหตุผลมารองรับไม่ได้เท่าไร ว่าทำไมพวกเขาถึงเลือกตัดสินใจแบบนี้ออกมารวมทั้งจุดเปลี่ยนความคิดของตัวละครในช่วงกลางถึงท้ายเรื่อง ก็ดูไม่ค่อยมีเหตุผลที่มีน้ำหนักมารองรับ ทำให้เราไม่ได้อินไปกับตัวละคร เมื่อถึงฉากดราม่าที่เป็นจุดไคลแม็กซ์ที่น่าจะทำให้เราเข้าใจพวกเขามากกว่านี้ เหตุผลสำคัญคือ การพยายามเพิ่มประเด็นให้กับตัวละครอื่นๆ ทั้งโทมินจุน แก๊งเณร และเด็กวัดคาแรกเตอร์จัดทั้งหลาย ที่ความคิดน่าสนใจ แต่ด้วยความที่มีตัวละครมากเกินไป ทำให้ไม่สามารถเกลี่ยบทและดึงความน่าสนใจของแต่ละคนขึ้นมาได้เท่าที่ควร ”

พี่นาค3
” เป็นเรื่องของอุปสรรคในการถ่ายทำ โลเคชั่นสวยเหมือนถ้ำพญานาคจริงๆแต่การเดินทางขึ้นไปบนเขานั้นค่อนข้างลำบากมากและในตอนกลางวันอากาศยังร้อนอีกด้วยแต่เมื่อเข้าใกล้ในตัวถ้ำแล้วเริ่มมีความรู้สึกว่ามันเย็นขึ้นจริงๆ ปกติแล้วเขาจะไม่ให้เราขึ้นไปค้างข้างบนแต่เดี๋ยวความที่เรามาเป็นกองมันจึงต้องค้างข้างบนและแอบน่ากลัวอยู่ตรงที่เราต้องนอนกันตรงที่ยื่นออกมาและข้างล่างเป็นเหวด้วย ทุกคนเหน็ดเหนื่อยกันมากเนื่องจากพอตื่นเช้ามาก็ต้องแบกของกันลงไปตอนขึ้นว่ายากแล้วแต่ตอนลงนั้นยากกว่าและเสียวกว่าด้วยเนื่องจากทางเดินมีความชันมาก ”

พี่นาค4
” ผมว่ามันก็ท้าทายทุกภาคอะ พอมันขยับ Level ขึ้น ภาค1 มาภาค2 มาภาค3 เราว่ารู้สึกว่าคนที่รอดูพี่นาคเขาก็มีความคาดหวังว่าเขาจะได้รับความสนุก ได้รับความตื่นเต้น ได้รับความสยองขวัญอะไรอย่างนี้ เพราะฉะนั้นการทำงานมันก็คือท้าทายเราอะ ท้าทายในสิ่งที่เราต้องทำตอบโจทย์แฟนคลับของพี่นาคที่รอดูกัน เพราะขนาดผมไปทำหุ่นพยนต์ทุกคนก็ยังมา Comment ว่าเมื่อไหร่จะเปิดพี่นาค4 เมื่อไหร่จะมีพี่นาค4 แม้แต่นักแสดงยังมาเล่าให้ฟังอย่างแปลนอย่างงี้ ไปไลฟ์สด คนก็ถามจะได้เห็นพี่แปลนในภาค4ใช่มั้ย พี่แปลนจะเป็นยังไง คือมีคน มีคนรอพอการมีคนรอก็เท่ากับว่ามีคนคาดหวังและ เมื่อมีคนคาดหวังอันนั้นแหละคือสิ่งที่เราต้องทำให้เขารู้สึกว่าสิ่งที่เขาคาดวังอะมันได้สมกับสิ่งที่เขาต้องการแล้วก็รอคอย ซึ่งเราทำอย่างเต็มที่เพื่อให้เขาได้แบบนั้น ”

 

นิทรรศการ “พี่นาค PEENAK UNIVERSE POP UP EXHIBITION”
เปิดตำนานความสยองจักรวาล “พี่นาค” ครั้งแรกในประเทศไทย
วันที่ 24 มกราคม – 29 กุมภาพันธ์ 2567
ณ M Space เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ รัชโยธิน
พร้อมรับของที่ระลึกสุด Limited Edition ภายในงานเท่านั้น
เข้าชมฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย!!

เตรียมอุ่นเครื่อง เปิดหน้าความอาฆาตไปกับภาพยนตร์ “พี่นาค4” สุดกว่าทุกตำนานความสยอง กับตัวอย่างแรกที่แฟนๆต่างรอคอย

เตรียมอุ่นเครื่อง เปิดหน้าความอาฆาตไปกับภาพยนตร์ “พี่นาค4” สุดกว่าทุกตำนานความสยอง กับตัวอย่างแรกที่แฟนๆต่างรอคอย

         การกลับมาตาม ‘สัญญา’ ทวงบัลลังก์ความเฮี้ยนสะเทือนโรงภาพยนตร์อีกครั้งของภาพยนตร์ขวัญใจมหาชนที่พร้อมจะพาทุกคนไปสัมผัสความหลอน เปิดหน้าความสยองปนฮา ถือว่าเป็นอีกหนึ่งภาพยนตร์ภาคต่อที่เเฟนๆหลายคนต่างรอคอย สำหรับเรื่องพี่นาค4 จากค่ายไฟว์สตาร์ โปรดักชั่น จำกัด ซึ่งในครั้งนี้นำความฮามาพร้อมสัญญาณความอาฆาตจากผีพี่นาคตนใหม่ การันตีภารกิจฉบับใหม่โดย บอลลูน(เอม วิทวัส) และเฟิร์ส(เจมส์ ภูริพรรธน์) ทั้งหลอน ทั้งฮาครบทุกรส จากผู้กำกับ ไมค์-ภณธฤต และนักแสดงนำ อาทิ เอม วิทวัส, เจมส์ ภูริพรรธน์, มีน พีรวิชญ์, ต้า อธิวัตน์, แปลน รัฐวิทย์, นนท์ อินทนนท์, มินตัน มินตรา และ กาโตว์ ปัณณวิชญ์ ยกขบวนมาหนีผีพี่นาคกันอีกครั้ง

          หลังจากผ่านพ้นศึกล้างคําสาปแห่งปฐมบทพี่นาค โทมินจุน (มีน พีรวิชญ์) เซเลบลูกครึ่งไทย-เกาหลี ได้มีโอกาส กลับมาบ้านเกิดในวัยเยาว์ เพื่อช่วยบูรณะโบสถ์เก่าแก่ของวัดประจําชุมชน โดยไม่ลืมควงแขน บอลลูน (เอม วิทวัส) กับ เฟิร์ส (เจมส์ ภูริพรรธน์) ที่ได้รับการอวยยศเป็นผู้จัดการส่วนตัวคุณโทก็มาที่นี่ด้วยเช่นกัน แค่ก้าวแรกที่เดินเข้ามา สัญญาณแห่งความอาฆาตจากผีพี่นาคภายใต้หน้ากากสยอง ก็พุ่งเป้ามาที่คุณโทอย่างจัง คําสัญญาและความเกลียดชังกําลังก่อตัวขึ้นจากความทรงจําในอดีตที่ถูกลืมเลือน 

          ขณะที่คุณโทโดนตามจองล้างจองผลาญอยู่นั้น ก็ได้เจอ น็อต (ต้า อธิวัตน์) อดีตเณรเทพแกดเจ็ต แพรรี่ (นนท์ อินทนนท์) แม่ครัวปากแจ๋ว และ โบนัส (มินตัน ทาสกระดาน)เครื่องด่าแห่งหมู่บ้าน จะมาร่วมรับแรงกระแทกแห่งชะตากรรมที่หนีให้พ้นยังไงก่อน

          ภายใต้หน้ากากสยอง… ผีพี่นาคตนนี้คือใคร? บาปและกรรมหนักแค่ไหนถึงอยากให้ตายตกไปตามกัน? นี่คือจุดเริ่มต้นของตํานาน พี่นาคอีกบท พร้อมจะมาบดขยี้มิตรภาพ อาละวาดมันทุกภพชาติ กระหน่ำความฮาให้ป่าช้ากระเจิง!

มาร่วมเปิดหน้าแลกกับความสยอง ในภาพยนตร์พี่นาค4 

22 กุมภาพันธ์นี้ในโรงภาพยนตร์

 

Peenak 4 (Official Teaser)

ไฟว์สตาร์ โปรดักชั่น ได้ฤกษ์ดีสุดปังบวงสรวงภาพยนตร์ “พี่นาค4″

ไฟว์สตาร์ โปรดักชั่น ได้ฤกษ์ดีสุดปังบวงสรวงภาพยนตร์ “พี่นาค4″

บริษัท ไฟว์สตาร์ โปรดักชั่น จำกัด ได้ฤกษ์ดีสุดปังจัดบวงสรวงภาพยนตร์ “พี่นาค4” ที่ทะยานความฮาทะลุมิติขนหัวลุกถึงรากผม และยังเหนียวแน่นในคอนเซ็ปหนังฮาชวนสยองที่ถ่ายทำทุกสถานที่จริง

โดยภาคนี้อัพเวลเพิ่มดีกรีความสนุกและสยองไปกับเหล่านักแสดงนำ อาทิ เอม-วิทวัส รัตนบุญบารมี, เจมส์-ภูริพรรธน์ เวชวงศาเตชาวัชร์, มีน-พีรวิชญ์ อรรถชิตสถาพร, แปลน-รัฐวิทย์ กิจวรลักษณ์, ต้า-อธิวัตน์ แสงเทียน, นนท์-อินทนนท์ บุญชื่น, มินตัน-มินตรา เชื้อวังคำ, กาโตว์-ปัณณวิชญ์ พัฒนศิริ ร่วมด้วยผู้บริหารจาก บจก. ไฟว์สตาร์ โปรดักชั่น อาทิ คุณสายจรูญ เอี่ยมพึ่งพร(กรรมการบริหารอาวุโส), คุณสมใจ เลิศเศรษฐการ(กรรมการบริหารอาวุโส), คุณเกียรติคุณ เอี่ยมพึ่งพร(กรรมการบริหาร), คุณทิพย์วรินทร์ นิลดำ (ผู้อำนวยการฝ่ายลิขสิทธิ์และจัดจำหน่าย) และ ไมค์-ภณธฤต โชติกฤษฎาโสภณ (ผู้กำกับภาพยนตร์) โดย “พี่นาค4” บอกเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นของ โทมินจุน(มีน) เซเลบลูกครึ่งไทย-เกาหลี สุดฮอตที่งานวิ่งเข้าชนแทบไม่ได้พัก ส่วนบอลลูน(เอม)และเฟิร์ส(เจมส์)ก็ได้สะบัดบ๊อบก้าวสู่การเป็นผู้จัดการศิลปินระดับท็อปอย่างเต็มตัว มาถึงตรงนี้เรื่องราวดูเหมือนจะแฮปปี้ลงตัวไปซะทุกสิ่ง แต่ทุกคนหารู้ไม่ว่าความสยองขนพองกำลังค่อยๆเริ่มก่อตัวขึ้น เมื่อชายหนุ่มลึกลับดวงตาสีฟ้าหน้าคุ้นๆกลับปรากฏตัวขึ้นเพื่อทวงสัญญาสยองอะไรบางอย่าง สัญญาที่แม้แต่คุณโทเองก็ยังจำไม่ได้ว่าเคยไปให้คำมั่นสัญญาไว้ตอนไหนชาติไหนและสัญญาที่ว่าคืออะไรกันแน่? ซึ่งคุณโทกำลังเจอศึกหนักจากการตามอาละวาดของผีพี่นาคตนใหม่ที่ยังเป็นปริศนา! ส่วนบอลลูนกับเฟิร์สเมื่อรับหน้าที่ผู้จัดการศิลปินแล้วก็คงต้องร่วมหัวจมท้าย เตรียมรับแรงกระแทกจากชะตากรรมที่ใครกันแน่เป็นคนก่อไว้!? มันยังไม่จบไม่สิ้น…มันเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของความอาฆาตคูณสี่ต่างหาก!

“พี่นาค4” คำสัญญาจะเวียนว่าย ตาย เฮี้ยนอีกครั้ง!! เร็วๆนี้ ในโรงภาพยนตร์

เตรียมตัวรับแรงกระแทก ใครหนี…พี่ทุบไส้แตก! การกลับมาอีกครั้งของพี่เบิ้มในภาพยนตร์ภาคต่อ The Roundup : No Way Out  บู๊ระห่ำล่าล้างนรก : ทุบนรกแตก พร้อมแล้วที่จะมาสร้างความดุเดือดกว่าที่เคย !!

เตรียมตัวรับแรงกระแทก ใครหนี…พี่ทุบไส้แตก! การกลับมาอีกครั้งของพี่เบิ้มในภาพยนตร์ภาคต่อ The Roundup : No Way Out บู๊ระห่ำล่าล้างนรก : ทุบนรกแตก พร้อมแล้วที่จะมาสร้างความดุเดือดกว่าที่เคย !!

ไฟว์สตาร์ โปรดักชั่น นำแฟรนไชส์ภาพยนตร์แอ็กชั่นและอาชญากรรมสัญชาติเกาหลีที่กวาดรายได้สูงสุดของเกาหลี ปี 2022 กลับมาส่งต่อความระห่ำกันอีกครั้งใน The Roundup : No Way Out บู๊ระห่ำล่าล้างนรก : ทุบนรกแตก รับประกันความมันส์โดยผู้กำกับอีซังยง และทีมสร้างเดิมจาก The Roundup

          The Roundup : No Way Out บู๊ระห่ำล่าล้างนรก : ทุบนรกแตก ภาพยนตร์ที่มีคนรอคอยมากที่สุดในปีนี้ เรื่องราวเริ่มต้นจาก 7 ปีหลังจากการกวาดล้างอาชญากรในเวียดนาม สุดยอดตำรวจสายสืบพันธุ์ดุอย่าง มาซอกโด (ดอน ลี) ก็ได้กลับมาทำงานอีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้เขาโดดมารับภารกิจใหม่โดยได้เข้าร่วมงานกับทีมใหม่ เพื่อสืบสวนและตามจับคนร้ายในคดีฆาตกรรมปริศนา และในไม่ช้าคดีที่เขาได้ตามสืบก็ค้นพบว่าคดีนี้มันไม่ใช่คดีฆาตกรรมธรรมดา ๆ แต่คดีนี้ดันไปเกี่ยวข้องพัวกันกับยาเสพติดและผู้มีอิทธิพลข้ามชาติ ยิ่งขุดคุ้ยล้วงลึกลงไปมากเท่าไหร่ก็ยิ่งไปเจอกับต้นตออย่าง จูชองซอล (อีจุนฮยอก) ที่คอยตามขัดขวางและหาเรื่องไม่ได้หยุดหย่อน แต่ถึงกระนั้นก็ไม่ได้ทำให้มาซอกโดล้มเลิกคดีนี้ มันยิ่งกลับทำให้เขาได้เจอกับเบาะแสใหม่ที่ไปเกี่ยวพันกับผู้ค้ายาชาวญี่ปุ่น ริคกี้ (มุเนะทากะ อาโอกิ) ซึ่งเป็นลูกชายของตระกูล Chaebol (แชโบล) ยากูซ่าขาใหญ่ในญี่ปุ่นที่ส่งแก๊งมาเฟียข้ามชาติของเขาเดินทางมาที่ประเทศเกาหลีเพื่อร่วมวงความโกลาหลในครั้งนี้ด้วย

ถึงเวลากวาดล้างเหล่าอาชญากรข้ามชาติให้สิ้นซาก ถ้าพวกมันคิดอยากจะสร้างปัญหา...ก็จัดปัญหาให้มันซะ!

“The Roundup : No Way Out บู๊ระห่ำล่าล้างนรก : ทุบนรกแตก” 15 มิถุนายนนี้ในโรงภาพยนตร์ทั่วประเทศ

ตัวอย่างภาพยนตร์ : https://youtu.be/Y1vFdj-VeIM

ไฟว์สตาร์ โปรดักชั่น ส่งหนังชวนหลอน “อ๊กซู : สถานีผีดุ THE GHOST STATION”   สร้างจากเรื่องจริงที่เกิดขึ้นในสถานีรถไฟใต้ดินอ๊กซู   ได้มือเขียนบทจากภาพยนตร์สยองขวัญสัญชาติญี่ปุ่นที่โด่งดังอย่าง The Ring(RINGU)

ไฟว์สตาร์ โปรดักชั่น ส่งหนังชวนหลอน “อ๊กซู : สถานีผีดุ THE GHOST STATION”  สร้างจากเรื่องจริงที่เกิดขึ้นในสถานีรถไฟใต้ดินอ๊กซู   ได้มือเขียนบทจากภาพยนตร์สยองขวัญสัญชาติญี่ปุ่นที่โด่งดังอย่าง The Ring(RINGU)

ไฟว์สตาร์ โปรดักชั่น ส่งหนังชวนหลอน “อ๊กซู : สถานีผีดุ THE GHOST STATION”  สร้างจากเรื่องจริงที่เกิดขึ้นในสถานีรถไฟใต้ดินอ๊กซู   ได้มือเขียนบทจากภาพยนตร์สยองขวัญสัญชาติญี่ปุ่นที่โด่งดังอย่าง The Ring(RINGU)

          ถ้าว่าด้วยเรื่องของภาพยนตร์สยองขวัญหลอนสั่นประสาทหนึ่งในนั้นต้องมีชื่อของ The Ring (RINGU) (เดอะ ริง) ที่เข้าฉายในปี 1998 ที่ได้ Hiroshi Takahashi (ฮิโรชิ ทาคาฮาชิ) เป็นผู้เขียนบทภาพยนตร์ที่ประสบความสำเร็จสูงสุดในขณะนั้น    และมาในปีนี้ 2023  Jung Yong-gi (จองยงกิ) ผู้กำกับภาพยนตร์เรื่อง “อ๊กซู : สถานีผีดุ THE GHOST STATION (อ๊กซู : สถานีผีดุ เดอะ โกสท สเตชั่น)  ก็ได้ชักชวนให้ Hiroshi Takahashi (ฮิโรชิ ทาคาฮาชิ) เป็นผู้เขียนบทของภาพยนตร์ “อ๊กซู : สถานีผีดุ THE GHOST STATION (อ๊กซู : สถานีผีดุ เดอะ โกสท สเตชั่น) นี้อีกด้วย  ซึ่งรับประกันความลึกลับ-สยองขวัญอย่างแน่นอน  โดยภาพยนตร์เรื่องนี้ฯ ได้สร้างมาจากเรื่องเล่าขานที่เกิดขึ้นจริงเกี่ยวกับสถานีรถไฟใต้ดินอ๊กซู ในปี 2011 เป็นคดีสะเทือนขวัญที่ได้สร้างความตกตะลึงให้กับคนทั่วประเทศ  ซึ่งเป็นเรื่องราวที่เล่าขานของการตายปริศนาที่เกิด ขึ้นในสถานีฯแห่งนี้  และเคยถูกทำเป็นเว็บการ์ตูนจนโด่งดังในออนไลน์  โดย Jung Yong-gi (จองยงกิ) ผู้กำกับภาพยนตร์ได้เล่าให้ฟังถึงการทำภาพยนตร์เรื่องนี้ว่า…

          “…มันฝังใจผมมานาน มันทำให้ผมอยากรู้เกี่ยวกับเรื่องราวที่เล่าขานกันมานมนานของสถานีอ๊กซูแห่งนี้ ที่มีเค้าโครงมาจากเรื่องจริงที่เกิดขึ้นของชายคนหนึ่งที่ฆ่าตัวตายอย่างปริศนาในปี 2009 และเรื่องนี้ก็กลายเป็นเรื่องโด่งดังอย่างมากภายในแวดวงสื่อออนไลน์ โดยเรื่องราวนี้เกี่ยวกับชายคนหนึ่งที่อยู่ตามลำพังบนชานชลารถไฟใต้ดิน เขาเหลือบไปเห็นผู้หญิงคนหนึ่งที่ดูเหมือนจะเมาเหล้า แต่จริงๆ ผู้หญิงที่เขาเห็นความจริงเธอไม่ใช่คนแต่เธอเป็นผี และต่อมาเธอได้ฆ่าเขาในปี 2011 นักวาดการ์ตูนนาม โฮรัง ได้ดัดแปลงเรื่องเล่านี้ให้กลายเป็นเว็บตูน ซึ่งสร้างความตื่นตะลึงให้กับคนทั้งประเทศ  ซึ่งผมตั้งใจอย่างมากที่อยากทำเป็นภาพยนตร์ และวันนี้มันก็ได้เกิดขึ้นแล้วจริงๆ  แน่นอนว่าการทำภาพยนตร์สักเรื่องอย่างเรื่องนี้ อ๊กซู : สถานีผีดุ THE GHOST STATION (อ๊กซู : สถานีผีดุ เดอะ โกสท สเตชั่น) ผมต้องทำมันออกมาให้ดีที่สุด ผมว่าผมโชคดีนะที่บทภาพยนตร์ผมได้ Hiroshi Takahashi (ฮิโรชิ ทาคาฮาชิ) มาร่วมเขียนบทให้ในเรื่องนี้  ฮิโรชิ มือเขียนบทของภาพยนตร์สยองขวัญสัญชาติญี่ปุ่นที่โด่งดังอย่างภาพยนตร์ The Ring RINGU ที่เข้าฉายในปี 1998 เขาเป็นคนเขียนบทฯที่เก่งฉกาจมากๆ การันตีได้จากผลงานที่ผ่านมาจนมาถึงเรื่องนี้ ฮิโรชิ ก็ไม่เคยทำให้ผมผิดหวัง  ส่วนฟากด้านนักแสดงผมก็ได้นักแสดงที่มากความ สามารถมาร่วมงานด้วยอย่าง Kim Bo-ra (คิมโบรา) รับบท Na-young (นายอง), Kim Jae-hyun (คิมแจฮยอน) รับบท Woo-won (อูวอน) และ Shin So-yool (ชินโซยูล) รับบท Tae-hee (แทฮี) ซึ่งทุกคนเก่งมากๆ อ๊กซู : สถานีผีดุ THE GHOST STATION ภาพยนตร์เรื่องนี้ผมต้องการนำเสนอความลึกลับและความสยดสยองที่มากกว่าเดิม  ผมพยายามอย่างยิ่งที่จะทำให้ทุกคนได้รู้สึกถึงความหวาดกลัวและร่วมลุ้นระทึกไปพร้อมๆกันในตอนที่คุณนั่งดูในโรงภาพยนตร์ครับ…”

ติดตามชมความสยดสยองรูปแบบใหม่กำลังจะเกิดขึ้น

 “อ๊กซู : สถานีผีดุ THE GHOST STATION”  31 พฤษภาคมนี้ในโรงภาพยนตร์ทั่วประเทศ

“อัพ ภูมิพัฒน์”  พลิกบทบาทครั้งใหญ่ กับบทบาทสุดท้าท้าย รับบทเป็นเด็กพิเศษในภาพยนตร์ที่สร้างปรากฎการณ์ แห่งความเชื่อ และความศรัทธา

“อัพ ภูมิพัฒน์” พลิกบทบาทครั้งใหญ่ กับบทบาทสุดท้าท้าย รับบทเป็นเด็กพิเศษในภาพยนตร์ที่สร้างปรากฎการณ์ แห่งความเชื่อ และความศรัทธา

อัพ ภูมิพัฒน์”  พลิกบทบาทครั้งใหญ่ กับบทบาทสุดท้าท้าย รับบทเป็นเด็กพิเศษในภาพยนตร์ที่สร้างปรากฎการณ์ แห่งความเชื่อ และความศรัทธา หล่อหลอมเป็นเรื่อง หุ่นพยนต์  ในโรงภาพยนตร์  

‘อัพ ภูมิพัฒน์’​ พลิกบทบาท รับเป็นเด็กพิเศษครั้งแรกในภาพยนตร์เรื่อง หุ่นพยนต์ นักแสดงมากความสามารถพลิกบทบาทใหม่ครั้งแรกกับ ‘เต๊ะ’ เด็กวัดที่เป็นเด็กพิเศษ ที่คอยช่วยเหลืองานต่างๆในวัด เต๊ะเป็นเด็กพิเศษที่สามารถช่วยเหลือตัวเองในชีวิตประจำวันได้ ซึ่งตัวเต๊ะชอบปั้นดินมาก อัพจึงต้องเรียนรู้ในการปั้นดิน และเรียนรู้ในบทบาทของการเป็นเด็กเด็กพิเศษ เพื่อมาปรับใช้ในการแสดงบทบาทในครั้งนี้

 

เป็นเด็กเด็กพิเศษ เพื่อมาปรับใช้ในการแสดงบทบาทในครั้งนี้เรื่องนี้เป็นการพลิกบทบาทที่ไม่เคยเล่นมาก่อน และท้าทายมาก จึงทำให้อัพต้องทำการบ้านอย่างหนักในการรับบท เต๊ะในครั้งนี้

         อัพได้ให้สัมภาษณ์ว่า บทบาทที่ได้รับเนี้ย เรียกได้ว่าท้าทายมาก เป็นบทบาทที่เราคิดว่าอยากจะลองเล่น ลองทำอะไรใหม่ๆ แต่จริงๆแล้วบทบาทนี้ยากมาก ยากจริงๆ เล่นเป็นเด็กพิเศษ เป็นบทบาทที่ท้าทายมาก  จึงต้องทำการบ้านหนักมากและค่อนข้างเยอะ  และอัพ ภูมิพัฒน์ ได้มีโอกาสไปเรียนรู้กับน้องๆที่มูลนิธิออทิสติกไทย กับพี่ไมค์ผู้กำกับเรื่องหุ่นพยนต์ ไปดูน้องๆหลายๆคน มาเป็นต้นแบบ แล้วนำมาเป็นจุดเริ่มต้นของการทำการบ้าน การทำการบ้านกับตัว  ละครนี้และอัพยังได้คุยกับผู้บริหารของมูลนิธิแล้วนำเอาความรู้มาปรับใช้กับบทบาทตัวละครเต๊ะมากขึ้น 

 

การ workshop ครั้งนี้ใช้เวลาในการเรียนรู้จากคาแรกเตอร์ของเด็กพิเศษ ในการลงพื้นที่จริ และเรียนรู้ระดับในการเรียนรู้ของน้องๆเพื่อมาปรับเป็นคาแรกเตอร์เต๊ะบางส่วนจึงนำมาจากในคาแรกเตอร์จริงๆของน้องๆ อย่างการคาดกระเป๋าติดตัว และปั้นดินน้ำมัน ต้องไปเรียนรู้การออกค่ายศิลปะของน้องๆ และในส่วนการ Workshop การแสดง อัพก็กลับไปทำการบ้านกับตัวละครเต๊ะ มีทั้งสดใสและดราม่า รวมถึงคำพูดติดปากในเรื่องขอบคุณครับ เจริญพร

เห็นได้ว่าหนังเรื่องนี้ได้มีความท้าทายอย่างมาก และได้มีการพลิกบทบาทใหม่ของ อัพ ภูมิพัฒน์ กับผู้กำกับมากฝีมือ ไมค์ ภณธฤต ผู้กำกับจากหนังที่โด่งดัง พี่นาค 1 – 3 และกำลังสร้างปรากฏการณ์ความขลังกับพิธีกรรมความตาย ปริศนาแรงสาปที่กำลังรอทุกคนไปไขปริศนาพร้อมกันในวันที่ 9 มีนาคมนี้ทุกโรงภาพยนตร์