“ข้างหลังภาพ” นับเป็นภาพยนตร์สุดคลาสสิคอีกเรื่องที่โลกภาพยนตร์ต้องจารึกไว้ในยุครุ่งเรืองของฟิล์ม 35มม. บันทึกเสียงจริงด้วยระบบซาวด์ออนฟิล์ม  กำกับโดย เปี๊ยก โปสเตอร์ และนำแสดงโดยสองพระนางที่โด่งดังที่สุดในยุคนั้น  นาถยา แดงบุหงา, อำพล ลำพูน  เข้าฉายเมื่อปี 2527   นับเป็นเวอร์ชั่นที่ถูกพูดถึงมากที่สุดและยังกวาดรายได้ถล่มถลายในยุคนั้น  ซึ่งต่อมาฟิล์มเนกาทีฟได้หายสาบสูญไปกว่า 20ปี  จึงไม่ได้มีการฉายที่ช่องทางใดๆในช่วงที่ผ่านมา ทาง บริษัท ไฟว์สตาร์ โปรดักชั่น จำกัด เจ้าของลิขสิทธิ์มีเพียงมาสเตอร์ในเทปยูเมติคซึ่งเป็นคุณภาพค่อนข้างเสื่อมสภาพ  ทางบริษัทฯ จึงออกตามหาทั้งในประเทศและประเทศญี่ปุ่นมาเกือบ 20ปี   ในที่สุดก็เจอโดยบังเอิญที่หอภาพยนตร์ จึงรีบนำกลับมารีมาสเตอร์ให้อยู่ในคุณภาพ 4K ซึ่งจะเป็นครั้งแรกในรอบ 20ปี ที่แฟนคอหนังไทยจะได้ชม “ข้างหลังภาพ” ที่ นาถยา แดงบุหงาอำพล ลำพูน นำแสดง   โดยจะนำกลับมาให้ทุกคนได้ชื่นชมกันอีกครั้งอย่างเต็มรูปแบบ  และ“ข้างหลังภาพ” ยังเป็นภาพยนตร์ที่ถูกคัดเลือกให้เป็น 1 ใน 70 สุดยอดภาพยนตร์ไทยในสมัยรัชกาลที่ 9 อีกด้วย

“ข้างหลังภาพ” จากบทประพันธ์โดย ศรีบูรพา  เรื่องราวได้เล่าถึง…นพพร หนุ่มนักเรียนนอกอนาคตไกล ที่ได้ระลึกถึงเรื่องราวในอดีตเมื่อครั้งที่เขาศึกษาอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น เขาได้มีโอกาสต้อนรับท่านเจ้าคุณอธิการพร้อมทั้งภรรยาสาวสวย คือ คุณหญิงกีรติหรือหม่อมราชวงศ์กีรติ  มิตรรักซึ่งเขาไม่มีวันลืมเลือนได้เลย และทุกครั้งที่ท่านเจ้าคุณไม่ว่างก็จะให้นพพรได้ทำหน้าที่ดูแลและพาคุณหญิงกีรติไปเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ จนทั้งสองได้แลกเปลี่ยนความรู้สึกและความคิดต่างๆ  ด้วยความอ่อนโยนและดูห่วงใยนพพรมากจนทำให้นพพรหลงรักคุณหญิงกีรติจนหมดหัวใจ แต่ก็ไม่อาจหาญกล้าทำลายความเคารพรักของคุณหญิงที่มีต่อท่านเจ้าคุณได้จนเมื่อทั้งสองเดินทางกลับประเทศไทย นพพรก็ได้เฝ้าแต่คิดถึงคุณหญิงกีรติ จนกระทั่งทราบข่าวการจากไปของท่านเจ้าคุณ ซึ่งไม่มีอะไรดีไปกว่ารีบตั้งใจเรียนให้จบโดยเร็ว ฟากคุณ หญิงเธอเองก็ยังคงเฝ้ารอคอยนพพรเสมอมา  แต่ก็ต้องผิดหวังเมื่อนพพรกลับมาแล้วต้องแต่งงานกับคู่หมั้นที่ครอบครัวเตรียมไว้ให้ นพพรไม่เคยรู้มาก่อนว่าคุณหญิงป่วยหนัก  จนวันสุดท้ายที่ทั้งสองได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง ก่อนที่คุณหญิงจะสิ้นลมเธอได้กล่าวคำร่ำลากับนพพรเป็นครั้งสุดท้ายว่า…ฉันตายโดยปราศจากคนที่รักฉัน แต่ฉันก็อิ่มใจว่าฉันมีคนที่ฉันรัก…       ลมหายใจได้สิ้นสุดลงคงเหลือเพียงภาพความหลังที่ทั้งสองได้วาดมันขึ้นมา